ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2021 ทั้ง Mercedes และ Aston Martin มีหน้าที่ร่วมกันในการทำหน้าที่รถเซฟตี้คาร์ในการแข่งขัน Formula 1
สำหรับแฟนข้างสนามความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือสีของรถระหว่างสีแดงของ Mercedes และสีเขียวของ Aston Martin แต่ในมุมมองของนักแข่ง F1 มองต่างไปจากนั้น
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของสมรรถนะรถ Aston Martin Vantage เริ่มต้นด้วยความเห็นของ “แม็กซ์ เวอร์สแตปเพ็น” ผิดหวังในความเร็วของรถที่ไม่เร็วพอจนทำให้การรักษาความร้อนของยางนั้นยังไม่เพียงพอ และยังบอกอีกว่ามันเหมือนกับเต่า
“มีการยึดเกาะน้อยมาก และรถเซฟตี้คาร์ก็ขับช้ามาก มันเหมือนกับเต่าไม่น่าเชื่อ” “เวอร์สแตปเพ็น” กล่าว
นอกจากนั้นยังไปสอดคล้องกับความเห็นของ “ชาร์ล เลอแคลร์” นักแข่งทีม Ferrari ผู้ชนะการแข่งขัน และ “จอร์จ รัซเซลล์”ที่บอกว่ารถเซฟตี้คาร์ของ Aston Martin นั้นช้ากว่ารถของ Mercedes ถึง 5 วินาทีต่อรอบ ส่งผลให้ FIA ต้องออกมาแถลงการณ์ในเรื่องนี้ออกมาในทันที
โดยสรุปของแถลงการณ์ FIA บอกว่าหน้าที่ของรถเซฟตี้คาร์ก็เพื่อช่วยลดความเสี่ยงสำหรับเจ้าหน้าที่ในสนามและนักแข่งที่เกิดอุบัติเหตุ และยังคงพอใจในสมรรถนะของรถ Aston Martin
ลองมาเปรียบเทียบข้อมูลทางเทคนิคของรถเซฟตี้คาร์ทั้งสองยี่ห้อ ระหว่าง Mercedes-AMG GT Black กับ Aston Martin V8 Vantage กันหน่อยดีกว่า
Mercedes-AMG GT Black
สำหรับปี 2022 นี้ Mercedes ได้เปิดตัวรถเซฟตี้คาร์และรถเมดิคัลคาร์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นรุ่นที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา สำหรับรถเซฟตี้คาร์ Mercedes-AMG GT Black รุ่นโปรดักส์นั้น มีการดัดแปลงเพื่อให้เข้ากับการเป็นรถที่วิ่งบนสนามเล็กน้อย แต่ในข้อมูลทางเทคนิคนั้นเทียบจะเหมือนกับรุ่นแข่งขัน
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ด้านแอโร่, น้ำหนัก และจุดศูนย์ถ่วงได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษสำหรับสนามแข่งขัน พละกำลัง 730 แรงม้า แรงบิด 800 นิวตันเมตร ด้วยความที่รถมีน้ำหนักเบา 1,520 กก. ประกอบกับแอโรไดมิกของ splitter ด้านหน้าและปีกหลัง สามารถลด drag บนทางตรงได้ และเพิ่ม downforce ในโค้งได้มากขึ้น
อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 3.2 วินาที และความเร็วสูงสุด 325 กม./ชม. ตัวเลข downforce เปิดเผยออกมาว่าสามารถทำได้ 249 กก. ที่ความเร็ว 200 กม./ชม. ขณะที่ความเร็ว 250 กม./ชม. มี downforce สูงสุดถึง 400 กก.
นอกจากนี้ “เบิร์นด์ เมย์ลันเดอร์” ผู้ทำหน้าที่ขับรถเซฟตี้คาร์ของ F1 ได้ออกปากชม โดยยอมรับว่าเขาไม่อยากจะเชื่อว่ารถเซฟตี้คาร์ปี 2022 จะก้าวกระโดดได้ขนาดนี้เมื่อเทียบกับรถรุ่นก่อน
Aston Martin V8 Vantage
เป็นรถเซฟตี้คาร์ที่ได้รับการอัพเกรดจากเดิมเช่นเดียวกัน ใช้เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบขนาด 4 ลิตร พละกำลัง 528 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 685 นิวตันเมตร น้ำหนักตัวรถ 1,570 กก. อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายในเวลา 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 314 กม./ชม.
ด้วย splitter ด้านหน้าและกระจังหน้าของ Vantage สามารถสร้าง downforce ได้ 155.6 กก. ที่ 200 กม./ชม. มากกว่ารถรุ่นโปรดักส์ 60 กก. ที่ความเร็วเท่ากัน และยังได้รับการปรับปรถงระบบกันสะเทือน พวงมาลัย และ dampers
ตารางเปรียบเทียบ
Mercedes-AMG GT Black | Aston Martin Vantage | |
เครื่องยนต์ | 4-litre twin turbo V8 | 4-litre turbo V8 |
พละกำลัง | 730 แรงม้า | 528 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด | 800 นิวตันเมตร | 685 นิวตันเมตร |
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. | 3.2 วินาที | 3.5 วินาที |
Top Speed | 325 กม./ชม. | 314 กม./ชม. |
น้ำหนัก | 1,520 กก. | 1,570 กก. |
Downforce ที่ 200 กม./ชม. | 249 กก. | 155.6 กก. |
รถเมดิคัลคาร์ (Medical Car)
รถยนต์เมดิคัลคาร์นั้นใช้รถของทั้ง Mercedes และ Aston Martin เช่นเดียวกัน แต่คนละรุ่นกับรถเซฟตี้คาร์
รถเมดิคัลคาร์ของ Mercedes เป็นรุ่น GT 63 S 4Matic+ ขับเครื่องด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร พละกำลัง 649 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 3.2 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 315 กม./ชม.
ส่วนของ Aston Martin รุ่น DBX Medical Car พละกำลัง 542 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที และความเร็งสูงสุดอยู่ที่ 291 กม./ชม.
อ่านข่าว Formula 1 เพิ่มเติมที่นี่
อ่านข่าว Mercedes เพิ่มเติมที่นี่
อ่านข่าว Aston Martin เพิ่มเติมที่นี่