“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดวัย 24 ปี จากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” สุดปลื้มที่ได้รับรางวัล “นักกีฬาอาชีพชายดีเด่น” เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2565 จากผลงานในปีนี้ ที่สร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักบิดไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ระดับเวิลด์ กรังด์ปรีช์ ในรุ่น โมโตทู ที่อินโดนีเซีย มาครอง รวมคว้า 4 โพเดียม รั้งอันดับ 10 ของโลก ด้วยคะแนนสะสมถึง 128 คะแนน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดที่นักแข่งไทยเคยทำได้ในรายการระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ พร้อมขอบคุณ บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ที่ช่วยผลักดันตลอดมา จนทำให้กลายเป็น “สมเกียรติ จันทรา” ในวันนี้
สำหรับความเคลื่อนไหวของ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดวัย 24 ปี จากโครงการ “ฮอนด้า เรซทู เดอะ ดรีม” หมายเลข 35 สังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย เจ้าของแชมป์ประวัติศาสตร์คนแรกของไทย ในรายการ “อินโดนีเซียน กรังด์ปรีช์” รุ่นโมโตทู รวมคว้า 4 โพเดียม รั้งอันดับ 10 ของโลก ด้วยคะแนนสะสม 128 คะแนน ในศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รุ่นโมโตทู เมื่อฤดูกาล 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงพักเบรกปิดฤดูกาลแข่งขัน
ล่าสุด สมเกียรติ จันทรา ได้รับเลือกให้รับรางวัล “นักกีฬาอาชีพชายดีเด่น” เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2565 ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยรางวัลที่ ก้อง สมเกียรติ ได้รับในครั้งนี้ ถือว่าเป็นนักแข่งจากวงการมอเตอร์สปอร์ตคนที่สอง ในรอบ 15 ปี ที่ได้รับรางวัลดังกล่าว ต่อจาก “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ รุ่นพี่จากฮอนด้า ที่เคยได้รับรางวัลนี้เมื่อปี 2550
สมเกียรติ จันทรา เปิดใจ หลังจากได้รับรางวัลนักกีฬาอาชีพชายดีเด่น ว่า “ผมรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้รับรางวัล “นักกีฬาอาชีพชายดีเด่น” และรู้สึกภูมิใจที่ได้ถูกเลือกให้รับรางวัลดังกล่าวนี้ ถือว่าเป็นรางวัลส่วนบุคคลรางวัลแรกของผมที่ได้รับในประเทศไทย ผมรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ขอขอบคุณการกีฬาแห่งประเทศไทยที่มอบรางวัลดังกล่าวให้ และที่สำคัญที่สุดต้องขอขอบคุณ ไทยฮอนด้า ที่ให้การสนับสนุนผมในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา ถ้าไม่มี ไทยฮอนด้า ผมก็ไม่สามารถจะก้าวขึ้นมายืนตรงจุดนี้ได้ สำหรับรางวัลวันนี้ จะเป็นกำลังใจ ให้ผมทำผลงานให้ดีขึ้นไปกว่าเดิมในปีหน้า และผมอยากมอบให้กับคุณแม่และแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตทุกคน ที่ช่วยส่งกำลังใจเชียร์ผมมาตลอดทั้งฤดูกาล วันนี้ผมจะเอาถ้วยรางวัลกลับไปให้คุณแม่ ท่านคงตื่นเต้นมาก ซึ่งการขึ้นไปรับรางวัลอันทรงคุณค่าในครั้งนี้ ทำให้ผมนึกถึงวันที่ผมก้าวขึ้นไปยืนในตำแหน่งแชมป์ที่อินโดนีเซีย เพราะตื่นเต้นมากๆ เหมือนกัน กับการที่ได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของการเป็นนักแข่ง”